ฝากเด็กๆ ไว้กับคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย

December 2020

ช่วงนี้อาจมีหลายครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ยังต้องไปทำงาน และที่เรียนพิเศษก็ยังปิดชั่วคราว อาจต้องฝากเด็กๆไว้กับ

คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจว่าปู่ย่าตายาย พ่อแม่ และลูก เกิดคนละยุคสมัยกัน หรือที่สมัยนี้พูดว่า 

"คนละgeneration" นั่นเองค่ะ จะให้คิด พูด ทำ และเติบโตมาเหมือนอยู่ในยุคเดียวกันคงจะไม่ง่ายนักค่ะ ดังนั้นทำอย่างไร

เมื่อยุคนี้คุณพ่อคุณแม่บางบ้านต้องไปทำงาน และต้องฝากลูกไว้กับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย

⭐️⭐️⭐️ สิ่งสำคัญคือผู้ใหญ่ จะต้องเป็น ”ทีม” เดียวกัน มีFC(fanclub)คนเดียวกัน คือ ทีมเลี้ยงลูกให้เก่ง ดี มีความสุขค่ะ

คุยกัน(ถ้าหากทำได้) ในเรื่องการกินอยู่หลับนอนของเด็ก การอบรมดูแลเด็กให้เป็นไปในทางเดียวกันค่ะ แต่ในทางปฏิบัติ

อาจจะค่อยๆ เลี้ยงกันไป คุยกันไปก็ได้ค่ะ เพื่อมุ่งหวังให้เด็กมีเหตุผล เคารพผู้ใหญ่ และอุ่นใจเมื่อนึกถึงผู้ใหญ่

😱แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้น คือ บางบ้านคุยกันไม่ค่อยได้ เข้าหน้ากันไม่ค่อยติด เกิดความน้อยใจกัน ทำให้การดูแลเด็ก

เกิดความอึดอัด คับข้องใจ ดังนั้นเราควรจะเลี้ยงดูลูกแบบ East meet west คือแบบตะวันออกพบกับตะวันตก ไทยพบฝรั่ง

สำนวนไทยก็คือพบกันครึ่งทางค่ะ โดยลองทำตามขั้นตอนนี้ดูนะคะ

🔹1. ให้ทำในใจไว้ก่อนว่าทุกคนรักเด็ก หวังดีกับเด็ก อะไรที่พลาดไป น่าจะไม่มีอันตรายร้ายแรง เพราะคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย

ท่านก็เลี้ยงคุณพ่อคุณแม่โตมาได้ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ศึกษามาอย่างดี แต่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากเท่ากับท่าน ก็ควร

ฟังท่านให้มากๆไว้ก่อน นำมาคิดไตร่ตรอง และลองปฏิบัติในข้อที่เห็นสมควร ใครๆก็ผิดพลาดได้ทั้งนั้นนะคะ

🔹2. ทำใจยอมรับในข้อดีของการเลี้ยงลูกแต่ละแบบค่ะ

🔹3. แบบตะวันออก มีการปลูกฝังวัฒนธรรมประเพณีที่ดีให้กับเด็ก เช่น การเคารพ เชื่อฟังผู้ใหญ่ ซึ่งโดยมากผู้ใหญ่มักจะแนะนำ

สิ่งที่เหมาะที่ควร ความกตัญญู และความซื่อสัตย์ ค่ะ

🔹4. แบบตะวันตก ดูแลให้เด็กรู้สึกเป็นเพื่อนกับผู้ใหญ่ กล้าแสดงความคิดเห็น รู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่กับผู้ใหญ่ แต่การมาเป็นเพื่อน

กับเล่นกับเด็กนั้นต้องไม่มากเกินควร เช่น เล่นเกมด้วยกันได้ แต่ให้เด็กเล่นศีรษะผู้ใหญ่ เป็นต้น

ฝึกให้เด็กมีวินัย เช่น ทำการบ้านให้เสร็จก่อนค่อยเล่น 

ฝึกให้มีความรับผิดชอบ เช่น ช่วยเหลืองานบ้าน 

ฝึกให้ช่วยเหลือตนเองได้ตามวัย เช่น รับประทานอาหารเอง(เละเทะบ้างก็ได้) ใส่เสื้อผ้าเอง

ชื่นชมเมื่อเด็กทำสิ่งทีเหมาะที่ควร จะช่วยให้เด็กภาคภูมิใจในตนเอง(ไม่ต้องกลัวเด็กเหลิงนะคะ)

👵🏻🧓🏻 เคล็ดไม่ลับสำหรับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย

🔹1. การแสดงความรักต่อเด็กทำได้หลายวิธี เช่น กอด หอมแก้ม(แต่ช่วงนี้อาจจะลดลงไปบ้างนะคะ จนกว่าจะแน่ใจแล้ว

ว่าเด็กไม่นำCOVID-19 มาติดผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เองก็ไม่นำโรคมาติดเด็กค่ะ ใช้เวลาดีดีร่วมกัน พูดคุยกัน ถ้าคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย

รักหลานอย่างถูกวิธี หลานก็จะรักท่านตอบแน่นอน และไม่เสียเด็กอีกด้วยค่ะ การตามใจจะทำให้เด็กเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ใช้เหตุผลได้ค่ะ

🔹2. ช่วยให้เด็กมั่นใจในความรักของคุณพ่อคุณแม่ โดยอธิบายว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องไปทำงานนะ ท่านยังรักลูกเหมือนเดิม

เหมือนที่คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายรักคุณพ่อคุณแม่ของหนูนั่นแหละ ตอนเย็นทำงานเสร็จแล้วท่านก็จะกลับมา เด็กก็จะรู้สึกอบอุ่นใจ

และมีความรักที่มั่นคงในใจได้ค่ะ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ทำงานที่มีความเสี่ยง เช่น ที่โรงพยาบาล ที่ๆ มีคนมากๆ กลับมาจากที่ทำงาน

ควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนใกล้ชิดลูก และถ้าหากไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อ ก็อาจจะต้องเว้นระยะห่างไปก่อน

ตามเวลาที่แพทย์กำหนดค่ะ ซึ่งคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายจะช่วยได้มากทีเดียวในการอธิบายและปลอบโยนเด็กค่ะ

🔹3. คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายจะมีเวลาว่างมากกว่าคุณพ่อคุณแม่ จะช่วยในเรื่องต่อไปนี้ได้ดีกว่า คือ

       🎡ช่วยไม่ให้เด็กดูหน้าจอเกินวันละ 2 ชั่วโมง จริงๆ แล้วเด็กเล็กๆ ไม่มีความจำเป็นต้องดูหน้าจอเลย

             ผู้ใหญ่คือของเล่นที่ดีที่สุดในการพัฒนาเด็ก

       🎡 เลี้ยงดูด้วยความรักและเมตตา เพราะคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมักจะใจดีและใจเย็นกับหลานๆ

       🎡 เล่านิทานอย่างอบอุ่นสนุกสนานไม่รีบๆ เล่าให้จบ เพื่อเด็กจะได้นอน แล้วจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อ

              อย่างคุณพ่อคุณแม่ เพราะมีเวลาว่างมากมาย คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมักจะเล่าทุกครั้งที่เด็กขอ

              พอเล่าเสร็จก็ถามว่าอยากฟังอีกไหม แล้วก็กอด หอม นอนไปพร้อมกับเด็กค่ะ

👩🏻🧔🏻 เคล็ดไม่ลับสำหรับคุณพ่อคุณแม่

🔹1. ทำความเข้าใจว่า คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมักจะรักและเอ็นดูหลานมาก และอยากให้หลานรักตนเองมากกว่ารักคุณพ่อคุณแม่

แต่คุณพ่อคุณแม่จะเป็นบุคคลที่สำคัญในการพัฒนาตัวตนของเด็กต่อไป แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้เลี้ยงลูกมากเท่าคุณปู่คุณย่า

คุณตาคุณยายแต่ลึกๆ เด็กก็ยังต้องการความรัก ความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรอิจฉาท่าน

หรือพยายามแย่งชิงความรักจากเด็ก ตรงกันข้าม ควรพยายามส่งเสริมให้เด็กรักพวกท่าน เช่นเดียวกับรักคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ

🔹2. ไม่ควรพูด หรือ แสดงออกว่า การเลี้ยงดูเด็กของคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายนั้น “ล้าสมัย” ซึ่งจะทำให้ท่านรู้สึกน้อยใจมาก

เราควรถนอมน้ำใจของท่านให้มากๆนะคะ

🔹3. ให้เวลาที่มีคุณภาพกับเด็กอย่างสม่ำเสมอ เช่น รับประทานอาหารด้วยกันทุกเดือน โทรศัพท์คุยกันทุกสัปดาห์ หรือคุยเล่นกัน

สัก10นาทีก่อนไปทำงานทุกเช้า เป็นต้นค่ะ

🔹4. ข้อนี้สำคัญมากๆ ค่ะ จะพูด จะทำอะไรกับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ต้องตั้งสติให้มั่น ถนอมน้ำใจให้มากค่ะ ค่อยๆคิด

ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ถ้ายังคิดไม่ออก อย่าเพิ่งลงมือทำอะไรลงไปค่ะ เพราะหากผิดใจกันแล้ว จะไม่เหมือน

ตอนที่คุณพ่อคุณแม่เป็นเด็ก ที่เพียงพูดว่า ”แม่จ๋าหนูขอโทษ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว” ทันทีที่จบประโยค คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย

ก็จะดีกับเราเช่นเดิม หรือยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องคิดก่อนทำ อีกทั้งยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

ให้กับลูกด้วยค่ะ

🔹5. พยายามเป็นครอบครัวที่มีความสุข สามัคคีกัน และไม่ทะเลาะกันค่ะ

🔹6. ควรร่วมใจกัน ไม่ขัดแย้งกันต่อหน้าเด็กสิ่งที่ทุกท่านไปทำก็เพราะหวังดีกับเด็ก การกระทำที่ดูแล้วคล้ายเป็นการตามใจเด็ก

มากเกินไป แต่ก็จะไม่มีอันตรายร้ายแรงต่อเด็กมากนัก เราก็ไม่ควรขัดแย้งกันต่อหน้าเด็ก ให้สิทธิ์คนที่ดูแลเด็กขณะนั้นอบรมเด็ก

แต่เพียงผู้เดียวไปก่อน หลังจากนั้นค่อยพูดคุยทำความตกลงการปฏิบัติต่อเด็กในแนวเดียวกันในภายหลังค่ะ หากคุยกันยังไม่เข้าใจ

ก็ค่อยๆ อบรมเด็กไปเรื่อยๆ เรามีเวลาตลอดทั้งชีวิตค่ะ นอกจากจะไม่ขัดแย้งกันต่อหน้าเด็กแล้วก็ไม่ควรต่อว่าผู้อื่นให้เด็กอีกด้วยฟังค่ะ

     ท้ายที่สุดนี้คุณพ่อคุณแม่คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายอาจจะเกิดคำถามว่าเด็กจะสับสนหรือไม่หากผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อเด็กแตกต่างกัน

ในเรื่องเดียวกัน ก็ขอตอบว่า ”ก็คงต้องมีบ้างค่ะ” แต่ถ้าเราเอาแต่พูดถึงด้านดีดีของการปฏิบัตินั้นๆ เด็กก็จะค่อยๆ ซึมซับสิ่งดีดีไปเองค่ะ 

ตอนโตลูกอาจจะมาพูดเล่นกับเราว่า”มันคนละยุคกันนะแม่” แต่เขาก็รู้ว่าควรจะทำอะไร ไม่ควรจะทำอะไรค่ะ

🌼🌼🌼สรุป🌼🌼🌼

☘️มีเป้าหมายในการเลี้ยงเด็กร่วมกัน คือ มุ่งหวังให้เด็กมีเหตุผล เคารพผู้ใหญ่ และอุ่นใจเมื่อนึกถึงผู้ใหญ่

☘️การเลี้ยงดูควรปรับให้พอเหมาะพอควร ปลูกฝังค่านิยมให้เคารพกตัญญูต่อผู้ใหญ่ เชื่อในเหตุผลที่ถูกต้อง

☘️พยายามเป็นครอบครัวที่มีความสุข สามัคคีกัน และไม่ทะเลาะกันค่ะ

☘️ควรร่วมใจกัน ไม่ขัดแย้งกันต่อหน้าเด็กค่ะ